.
Day 0:: 22 December 2011
Los Angeles, USA → Vancouver, Canada
.
,, เที่ยงคืนเศษๆ ของวันที่ 22 ธันวาคม 2554
เครื่องบิน Alaska Airline เที่ยวบินที่ AS707 ร่อนลง Vancouver International Airport หรือ สนามบิน YVR โดยสวัสดิภาพ
อากาศภายนอกอาคาร -1 องศาเซลเซียสโดยประมาณ
บรื๋อออออ~ ทำไมมันหนาวงี๊เนี๊ยะ!!! … ว่าแล้วก็ควักเสื้อกันหนาวตัวใหม่ออกมาใส่อีกชั้น
(เอิ่มมมม .. กลมเป็นสาวมิชลินก็ไม่ปาน -*-)
.
แต่จังหวะนี้ ไม่มีเวลาจะห่วงสวยแล้วค่ะ
ได้แต่เดินจ้ำ ตามคุณคู่หูไปตามทาง… ง่าาาาาาาา หนาววววววว!!
ภารกิจแรกของเรา ก็คือการไปเอารถเช่าก่อนที่มันจะปิดค่ะ
.
.
ขอเล่าก่อนเลยว่า ทำไม๊ทำไม ถึงได้เลือกไฟล์ทที่ลงดึกเยี่ยงนี้
สาเหตุเน้นๆ คือ ง-ก ค่ะ!!!
.
จริงๆแล้วไฟล์ทจาก LAX มา Vancouver ยังมีอีกหลายเวลา… เรียกได้ว่าบินกันทั้งวันล่ะค่ะ
แต่ว่าด้วยความเรื่องมาก รักสบายเป็นทุน
เราก็ขอเลือกเป็น Direct flight เป็นอันดับแรก
อันดับถัดมา คือขอราคาต่ำที่สุดค่ะ
.
ก็ด้วยราคาถูกกว่าอันอื่นเกือบๆ $50 ก็เลยทำให้หน้ามืดตามัวคลิกไปก่อน
แล้วเพิ่งมารู้ตัวกันทีหลัง… กรี๊ดดดดดดดดดดด ลืมดูว่า am หรือ pm!!
เราก็เลยได้มาเหยียบแคนาดากันตั้งแต่ตะวันยังไม่โผล่ ด้วยประการฉะนี้ค่ะ = =’
รันเวย์ตอนกลางคืนก็สวยไปอีกแบบเนอะ ><
.
.
เอาล่ะ ประจานตัวเองพอประมาณ… มาเข้าเรื่องกันดีกว่า
.
ระบบรถเช่าของที่นี่ เค้าทำเป็นระบบ เป็นมาตรฐาน เป็นเรื่องเป็นราวมากค่ะ
รถเช่าทุกยี่ห้อ มารวมตัวกันอยู่ตึกข้างๆสนามบินอย่างพร้อมเพรียง
ที่นี่ถือว่าสะดวกสบายมากนะคะ สามารถเดินจากอาคารผู้โดยสารไปที่อาคารรถเช่าได้เลย
(ตอนไปฮาวายต้องนั่งรถบัสไปอีกทอดนึง ถ้านั่งตอนนี้ก็คงน่ากลัวน่าดู -*-)
.
บรรยากาศวังเวงนิดหน่อย เพราะว่าดึกมาก ไม่ค่อยมีคนแล้ว
ก็เลยต้องจ้ำๆกันหน่อย ฮึด จ้ำ ฮึด!
รีบคุยกับเจ้าหน้าที่ แล้วก็รีบไปเอารถ
.
ครั้งนี้ลูลิจองกับบริษัท Alamo ค่ะ เพราะว่าเป็นบริษัทเดียวที่เปิดรับรถตอนตี 1 = =’
มีคนบอกว่า บริษัทนี้สภาพรถจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็เลยหวั่นๆว่าจะได้รถแบบไหนน๊า
แต่พอเดินมาถึงที่รถ อ้าวเฮ่ย!!! รถดีกว่าที่คาดไว้มากกกกกกกกกกกกกกกกก (≧∪≦☆)
.
เรื่องของเรื่องคือ ลูลิจองรถแบบ economy ไปค่ะ (ราคาถูกที่สุด แต่ก็คันเล็กที่สุดด้วย)
แต่รถที่ได้มา เป็นแบบ Full size คือใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย กำลังเครื่องดีกว่า อะไรแบบนั้น ><
ถือว่าโชคดีม๊ากกกกกกกกกกกกกก เพราะว่าได้อัพเกรดฟรีๆ
คุณคู่หูบอกว่า รถอาจจะหมด เหลือแต่คันดีๆ
แต่เราจองมาแล้ว จะมาบอกหมดเอาตอนนี้คงไม่ได้
ไหนๆก็จอดอยู่เฉยๆ ให้เราเช่าถูกหน่อย ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
ลูลิพยักหน้าหงึกหงักประกอบ อืมๆ มีเหตุผล (。_。*))((*。_。)
.
.
แล้วรถ Chevrolet optimum สีดำ เงาวับ ก็ทะยานออกสู่ท้องถนนแห่งแวนคูเวอร์
การเดินทางในแคนนาดาก็เริ่มต้นขึ้น แท่น แท๊นนนนนน~~~
.
.
ทริปนี้เป็นทริปที่ค่อนข้างเตรียมตัวน้อยอยู่เหมือนกันค่ะ
ลูลิรู้สึกได้เลยว่าไม่พร้อมในหลายๆด้าน
คงเพราะว่าแคนนาดากับอเมริกามันเป็นบ้านพี่เมืองน้องกัน
หลายๆอย่างมันคล้ายกัน จนในใจลูลิมันแทบจะเป็นประเทศเดียวกันไปแล้ว
ลูลิก็เลยชะล่าใจ จนลืมนึกไปว่า แคนาดา ก็คือ แคนนาดา!!
.
ความผิดพลาดอย่างแรก ก็คือ….. ลูลิ(และคุณคู่หู) ไม่ได้มีเงินแคนนาดาติดมาซักดอลล่าเดียว!!
โธ่ถัง กาละมังจะแตก!!
ด้วยความเคยชินกับการใช้บัตรรูดทุกสิ่งที่ขวางหน้า
cash ก็เลยเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามไป ชนิดที่ว่าลืมสิ้น!!
แต่ถือว่าโชคยังเข้าข้างอยู่บ้าง ที่ฟ้ายังส่ง Scotia Bank มาให้ค่ะ (人゛ ∀゛)。;*
.
Scotia Bank ถือว่าเป็น alliance ของ Bank of America ที่ลูลิถือบัตรอยู่ค่ะ
สามารถถอนเงินสดได้ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม (แต่จัดอัตราแลกเปลี่ยนไปเต็มเหนี่ยว!! -*-)
และถึงแม้จะมีปัญหากับตู้ ATM อยู่หลายวัน แต่ในที่สุดก็ถอนเงินสดออกมาได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมจริงๆค่ะ
.
* สำหรับคนที่จะใช้บริการ Scotia ATM กับบัตรของ Bank of America
ต้องถอนในตู้ที่อยู่ในธนาคารเท่านั้นนะคะ
พวกตู้ลอยตามปั้มน้ำมัน จะไม่สามารถเบิกออกมาได้ค่ะ
.
.
ข้อที่สองที่ละเลยจนไม่น่าให้อภัย ก็คือ ขับรถค่ะ
อย่าลืมว่า ถึงเป็นพี่น้องก็ยังต้องมีบางอย่างที่แตกต่างกัน
แคนาดา ขับรถพวงมาลัยซ้าย ชิดขวา เหมือนอย่างที่อเมริกาทุกอย่าง
แต่ว่าหน่วยเป็นกิโลเมตรต่อชั่วโมง (kph) เหมือนบ้านเรา แทนที่จะเป็นไมล์ต่อชั่วโมง (mph) นะคะ
เวลาที่เห็นป้าย speed limit ข้างทาง ไม่ต้องงง ว่าทำไมประเทศนี้มันขับรถกันเร็วจังฮู๊~
100 ของที่นี่ คือ 100 kph หรือเทียบๆแล้วก็ราวๆ 60 mph เท่านั้นเองค่ะ (^皿^○)
.
ด้วยความที่ไม่ได้เชคกฎจราจรมาก่อน
ทริปนี้ก็เลยขับรถกันอย่างพลเมืองดีมากๆค่ะ ถูกต้องตามระเบียบเด๊ะๆ (⌒‐⌒)>
แบบว่าไม่รู้ว่ารถตำรวจมันหน้าแบบไหน หรือขับเร็วแค่ไหนจะโดนจับ
ถ้าผิดกฎโดนปรับหนักแค่ไหน อะไรแบบนี้!!
(ฟังดูเป็นคนดี แต่จริงๆคือ ไม่รู้จะแหกกฎยังไงให้ไม่ถูกจับมากกว่า 555)
.
โดยพื้นฐานแล้ว ขับรถที่นี่ใกล้เคียงกับฝั่งอเมริกามากค่ะ
แต่มีอยู่อย่างนึงที่ยังไม่เข้าใจมาจนถึงทุกวันนี้
ถามใครก็ได้คำตอบไม่เหมือนกันซักราย
ก็คือ ไฟเขียวกระพริบ!! ( ̄▼ ̄|||)
.
มันเป็น combination ที่แปลกประหลาดมากค่ะ
ที่อเมริกา เรามีไฟเหลืองกระพริบ ที่เป็นสัญญาณแทน Stop sign
(เวลาเอามาเขียนก็จำได้อยู่หรอก แต่ตอนขับจริง อิชั้นลืมตัวฝ่าแหลกทุกที T^T)
แล้วก็จะมีไฟเขียว ที่เราจะสามารถเลี้ยวซ้ายตัดเลนได้
แต่ว่าต้องระวังรถที่จะสวนมาเองนะคะ ถ้าชนจะถือว่าเราผิดนะขอเตือน ><
.
ตอนแรกก็คิดว่าที่แคนาดาก็น่าจะเหมือนกัน
แต่พอกำลังจะเลี้ยว…. ไฟเขียวกระพริบซะงั้น!!!
ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก เอ๋อกันอยู่กลางถนน….. เฮ๊ยยยย สรุปว่าเลี้ยวได้มั้ยล่ะนั่น!!
นี่รอดกลับมาได้แบบไม่มีใบสั่งซักใบนี่ถือว่า”ปาฎิหาริย์มีจริง”มากเลยนะเนี๊ยะ ><
.
.
กว่าจะมาถึงโรงแรมก็ปาไปตีสองกว่า
พอเข้าห้องได้ ก็ไม่พูดไม่จา… ลูลิกระโดดขึ้นเตียง ขอเฝ้าพระอินทร์ก่อนใครเพื่อน ><
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ = =z Z Z
End.
Recent Comments