Follow my soul ,, ♥

เขียนไปเท่าที่ใจอยาก

[Trans] [Myojo 2010/08] เราจะโต๊ เราจะโต ,, Takaki Yuya X Chinen Yuri July 2, 2010

เราจะโต๊ เราจะโต

Takaki Yuya X Chinen Yuri


เพิ่งเห็นว่าแลกเสื้อกันใส่ กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก

ชิเนน: เฮ่.. ยูยะ

ทากากิ: (กำลังง่วนอยู่กับการวาดกราฟฟิตี้ลงบนถาดหลังจากที่กินข้าวเที่ยวเสร็จ)

ชิเนน: ดูเหมือนว่างาน(สัมภาษณ์)นี้เราจะต้องคุยกันล่ะ เวลาอยู่ข้างนอกนายดูดีมากเลยนะ ดูเป็นผู้ใหญ่เชียวล่ะ ทั้งนายแล้วก็ชั้นโตขึ้นเยอะเลย

ทากากิ: เห.. จริงเหรอ!?

ชิเนน: ไม่จริงหรอก ชั้นล้อเล่น! นี่ชั้นโดนเมินเหรอเนี่ย เศร้าจัง

ทากากิ: ขอโทษ ขอโทษ! กราฟฟิตี้ที่ชั้นทำมันกำลังมันส์น่ะ ชั้นกับนายยังเด็กอยู่เลยนะชิเนน ก่อนหน้านี้น่ะข้าวกลางวันของชั้นมันมีแครอทกับเศษไหม้ๆอยู่ด้วย ชั้นไม่อยากกินเลยแอบเขี่ยออกมาบนถาดด้วยล่ะ

ชิเนน: อ๋อ ใช่ๆชั้นก็เห็นล่ะ ไม่ดีเลยน๊า.. ชั้นน่ะจะทำแบบนั้นกับมะเขือม่วงล่ะ

ทากากิ: ชั้นน่ะเกลียดผักชีด้วยล่ะ แต่เวลาที่ไปบ้านเพื่อนชั้นก็กินนะ ไม่เคยกินไม่หมดเลยล่ะ.. การทำอาหารนี่มันยากมากๆเลยเนอะว่ามั๊ย เวลาที่เพื่อนๆมาเที่ยวที่บ้านนะ ถ้าหากว่าพ่อแม่ชั้นจะทำอาหารเลี้ยง พวกเค้าก็จะถามก่อนเลยว่า “ไม่ชอบกินอะไร” ชั้นคิดหนักเลยล่ะว่าจะตอบว่าอะไรดี

ชิเนน: ชั้นก็เหมือนกันต้องคิดให้ดีๆก่อน มันสำคัญมากเลยนะเวลาที่เราจะบอกว่าเราไม่ชอบอะไรเนี่ย เพราะมันต้องคิดถึงความรู้สึกของคนที่ทำให้เรากินด้วย

ทากากิ: บางทีชิเนนก็ดูเป็นผู้ใหญ่มากๆเลยนะเนี่ย!

ชิเนน: เวลาที่มีคนพูดว่า “นายยังเด็ก หรือนายโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว” พวกเค้าใช้อะไรตัดสินกันนะ.. ยูยะ นายคิดว่าไง

ทากากิ: อืมมมม…

ชิเนน: สำหรับชั้นนะ ชั้นว่าแต่ละครก็มีความคิดของตัวเอง อย่างเช่น ชั้นคิดว่ายูยะน่ะยังเด็ก เพราะงั้นก็เลยพูดอย่างที่อยากจะพูดได้

ทากากิ: ก็จริง..

ชิเนน: ถ้าหากว่านายอยากทำก็สามารถทำได้ ชั้นน่ะก็แค่มีมาตรฐานของการเป็นผู้ใหญ่สูงเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นอะไรคือคำตอบที่ถูกต้อง ชั้นว่าคงไม่มีใครรู้เหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้ว ชั้นรู้จักยูยะแค่จากงานของ JUMP ก็เลยไม่รู้ว่าชีวิตปกติของนายน่ะ มีรูปแบบอื่นๆอีกรึเปล่า

ทากากิ: ไม่นะ ชั้นก็เป็นอย่างที่นายเห็นนั่นล่ะ ชั้นเองก็ได้เจอชิเนนแค่ระหว่างทำงาน แต่ว่าชั้นว่านายเป็นผู้ใหญ่มากเลยนะ นำหน้าคนอื่นไปเยอะเลยล่ะ ทั้งๆที่นายดูเด็กกว่าใครแท้ๆ

ชิเนน: ชั้นเองก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าชั้นยังเด็กหรือว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้วกันแน่ ชั้นรู้สึกว่าคนจะเป็นผู้ใหญ่หลังจากที่เข้าม.ปลาย จริงๆแล้วเพราะชั้นตัวเล็กด้วยล่ะก็เลยดูไม่โตซะที แต่มันก็คือความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ล่ะนะ ชั้นน่ะอยากจะตัวโต อยากจะไปทำใบขับขี่ อยากจะเป็นอิสระ บางทีชั้นก็คิดเรื่องพวกนี้เหมือนกัน

ทากากิ: นายอยากจะเป็นผู้ใหญ่แล้วเหรอ

ชิเนน: อืม..ก็ไม่เชิงหรอกนะ ชั้นแค่ไม่อยากเป็นเด็กไปตลอดมากกว่าน่ะ มันก็เหมือนกับมนุษย์ทั่วๆไป วันนึงนายก็ต้องโตขึ้น เพราะงั้นในช่วงที่ยังเป็นเด็กอยู่ชั้นก็อยากจะใช้ชีวิตให้มันสนุกที่สุดน่ะ

ทากากิ: สำหรับชั้นนะ ชั้นอยากจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่ยังมีหัวใจที่ยังเป็นเด็ก ถึงชั้นจะกลายเป็นคุณปู่ชั้นก็ยังอยากจะสนุกไปกับเจทสกี หรือล่องเรืออะไรแบบนี้ได้

ชิเนน: ใช่ ใช่.. ชั้นก็อยากจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน! พอเวลาผ่านไป ชั้นก็อยากจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีหน้ามีตา มีคนมากมายมานับถือ ไม่ใช่เฉพาะแค่เด็กๆจูเนียร์รุ่นน้อง แต่อยากให้คนที่ดูทีวีคิดเหมือนกันว่า “ชั้นอยากเป็นผู้ใหญ่แบบชิเนนจังเลยน๊า”

ทากากิ: งั้นเหรอ.. แล้วผู้ใหญ่แบบชิเนนเป็นแบบไหนล่ะ

ชิเนน: อืม.. ชั้นก็ยังไม่รู้เหมือนกันนะ ชั้นจะลองค้นหาตัวเองดูละกัน แต่คนจะต้องไม่ได้มองแค่รูปลักษณ์ภายนอก การเต้น หรือการร้องเพลงนะ แต่ว่าจะต้องเป็นคนดีแบบมารยาทดี พูดคำดีๆอะไรแบบนั้น

ทากากิ: สำหรับชั้นนะ ชั้นก็เพิ่งจะ 20 มาไม่นานมานี้ ชั้นจะพยายามรู้จักคนให้มากๆ คุยกับพวกเค้าเยอะๆ แล้วก็แอบเรียนรู้เรื่องมารยาทต่างๆจากพวกเค้า

ชิเนน: แอบเรียนน่ะเหรอ

ทากากิ: เพราะว่าชั้นน่ะ 20 แล้วใช่มั๊ยล่ะ ชั้นคิดว่าการเป็นผู้ใหญ่มันก็เป็นสิ่งจำเป็นเหมือนกันนะ โดยปกติแล้วพวกเราก็อยากจะรู้นู่นรู้นี่อยู่แล้วใช่มั๊ยล่ะ แต่ยังไงดีล่ะ บางเรื่องที่เราไม่รู้ไม่เข้าใจ แต่ว่าเราก็อายเกินไปที่จะถามออกไปตรงๆ ชั้นก็เลยใช่วิธีดูจากที่พวกผู้ใหญ่เค้าทำกัน แล้วก็จำมาใช้ไงล่ะ

ชิเนน: ใช่เลย ใช่เลย!

ทากากิ: เพราะงั้นชั้นก็เลยแอบเรียนรู้อย่างสนุกสนานทุกวันเลยล่ะ ชั้นชอบคิดล่วงหน้า ชอบวางแผน แล้วก็หวังว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆน่ะ

ชิเนน: อู้หู.. ชั้นไม่เคยคิดล่วงหน้าเลยล่ะ ในกรณ๊นี้ต้องเรียกว่ายูยะเป็นผู้ใหญ่แล้วสินะ ต้องแอบเรียนรู้ด้วย

ทากากิ: อ๋า น่าอายจังเลย อย่ามองชั้นแบบนั้นนะ!

————————————————————————–

Credit Mag scans: nanatorigawa // English trans: taka_trans
Thai trans :: ลูลิ~ (kawaii~ne)
http://www.whatsubb.com ~
Please take it out with full credit

————————————————————————–

,, อืม… อิ้งมันมางงๆ ก่งก๊ง!! แปลไทยก็เลยก่งก๊งตาม = =’
อาจจะไม่ได้ถูกเป๊ะทุกประโยค เพราะอิ้งมันมาเข้าใจยากจริงๆ แต่คิดว่าใจความหลักน่าจะไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากนี้จ้ะ
ขออภัยหากว่ามั่ว 55555+

พอดีเห็นว่าช่วงนี้ นากะยามะ กับทาคาชี่ มาแรง~
ก็เลยแปลมาแกล้งคน 5555555555+
แต่…..ไม่มีอะไรให้จิ้นเลยน๊า ผิดหวังๆ ><

 

[Trans] [Myojo 2010/08] คู่หูตลอดกาล ,, Yamada Ryosuke X Nakajima Yuto

คู่หูตลอดกาล!!

Yamada Ryosuke X Nakajima Yuto


คลิกดูภาพใหญ่ (มาก) จ้า ^^

ยามาดะ: ครั้งแรกที่ผมเจอยูโตะคุง ตอนนั้นผมไปออดิชั่นรายการทีวีครับ พอการออดิชั่นจบเรียบร้อยแล้ว ยูโตะคุงก็มาคุยกับผม “กลับบ้านด้วยกันนะ” ตอนนั้นเค้าแบกกระเป๋าใบใหญ่มากเลยล่ะครับ

ยูโตะ: อา.. ใช่ ใช่ ผมทำอย่างนั้นจริงๆด้วย (หัวเราะ) นึกออกแล้วๆ.. ตอนนั้นเพราะว่าบ้านเราอยู่ทางเดียวกันน่ะครับ เพราะงั้นหลังจากนั้นเป็นต้นมา เวลาที่เรากลับจากทำงานเราก็จะกลับด้วยกันตลอดเลยครับ เราได้คุยอะไรกันเยอะแยะเลย.. แต่พอหลังจากเข้าบริษัทมาซักปีนึง ยามะจังก็บอกว่าเค้าอยากจะออกจากการเป็นจูเนียร์ นายยังจำได้รึเปล่า

ยามาดะ: อ่า~~ ก็ตอนนั้นน่ะ ริวทาโร่ ที่เข้าบริษัทมาพร้อมๆกัน, ฮัชชี่ (ฮาชิโมโตะ ริวสุเกะ) แล้วก็ยูโตะคุง ทุกคนมีกลุ่มอยู่กันหมดแล้วนี่ ตอนนั้นก็มีแค่ผมคนเดียวที่ยังไม่มีกลุ่ม ก็เลยรู้สึกเสียใจ แล้วก็คิดว่าบางทีออกไปเลยจะดีกว่า

ยูโตะ: ตอนนั้นน่ะ ผมคิดในใจว่า “บ้ารึเปล่า!! นายเต้นได้ดีมากเลยนะ ทำไมจะต้องออกด้วยล่ะ” ผมไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่จริงๆแล้วผมรู้สึกเศร้ามากเลยครับ ยามะจังเป็นคนที่เข้ากันได้ดี เราเต้นข้างๆกันมาตลอด แต่ว่ามีแค่ผมคนเดียวที่ได้รับเลือก.. ครับ พอผมได้ฟังสิ่งที่ยามะจังคิด ผมก็รู้สึกมืดมนไปด้วยเหมือนกัน

ยามาดะ: จริงครับ เพราะว่าตอนนั้นผมยังเด็กด้วยล่ะ ผมก็เลยไม่ค่อยได้คิดว่าคนอื่นเค้าจะคิดยังไง แล้วตอนที่ผมกำลังเศร้ามากๆเลย ผมก็ได้ไปฮาวายกับยูโตะคุงครับ!

ยูโตะ: ในระหว่างที่ทำงาน ก็จะมีเด็กจูเนียร์ใหม่ๆเข้ามาด้วยครับ ตอนแรกยามะจังไม่ได้โดนจับเข้ามาเป็นสมาชิก แต่ผมก็บอกเค้าไปว่า “ไปด้วยกันเถอะนะ~”

ยามาดะ: ขอบคุณนะ~ แต่เพราะว่าตอนนั้นผมยังไม่มีพาสปอร์ตครับ ทริปก็เลยต้องเลื่อนไปเป็นอาทิตย์เลย (หัวเราะ) ที่ฮาวายเราก็อยู่ด้วยกันตลอดเลยครับ ได้นอนห้องเดียวกันด้วยล่ะ

ยูโตะ: ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีจริงๆเลยเนอะ จนถึงตอนนี้ เราเคยทะเลาะกันแค่ครั้งเดียวเอง

ยามาดะ: แล้วพอได้เข้ามาเป็น JUMP พวกเราก็ยิ่งสนิทกันมากกว่าเดิมอีกครับ ถึงเราจะเคยทะเลาะกันบ้าง แต่นั่นก็เป็นแค่เรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะครับ.. ยูโตะคุงเค้ามีนิสัยชอบเรียกร้องความเห็นใจครับ เค้าจะชอบพูดว่าเค้าเจ็บตรงนั้นตรงนี้

ยูโตะ: แต่ยามะจังก็ไม่เคยโกรธเลยนี่

ยามาดะ: วันนั้น ยูโตะคุงก็มาบอกอีกว่าวันนี้เค้าเจ็บที่ไหนซักที่ ผมก็คิดว่า “ชั้นจะแก้แค้นที่นายทำไว้เมื่อครั้งก่อน” แล้วก็เลยตีตรงที่เค้าบอกว่าเจ็บ

ยูโตะ: ผมก็เลยตะคอกอย่างโกรธสุดๆเลยครับ

ยามาดะ: ยูโตะคุงน่ะเป็นรุ่นพี่ใช่มั๊ยครับ เพราะฉะนั้นก็เลยมีกำแพงสูงมากั้นระหว่างเรา หัวใจของผมเต้นแรงมากเหมือนกับว่าจะแตกเป็นเสี่ยงๆเลยครับ

ยูโตะ: ตอนที่ถ่ายรูปด้วยกัน ผมรู้สึกได้ถึงความผ่อนคลายครับ ตอนนั้นเป็นการถ่ายรูปด้วยกันครั้งแรก ถ้าหากว่าพูดกันตามตรง มันก็เหมือนเป็นการทะเลาะกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องล่ะครับ ก็เหมือนกับเวลาแข่งวอลเลย์บอล บางทีที่เราต้องหันหน้าเข้าหากัน ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกได้ถึงแรงกดดันของกันและกันครับ

ยามาดะ: ถึงแม้ว่าจะไม่มีกำแพงระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องแล้ว แต่ความรู้สึกนับถือก็ยังไม่เปลี่ยนไปนะครับ สำหรับผมแล้วยังไงยูโตะคุงก็เป็น “ยูโตะคุง” อยู่ดี ที่โรงเรียนเอง เพื่อนๆก็จะชอบมาถามว่า “ทั้งๆที่พวกนายอายุเท่ากัน ทำไมนายไม่เรียกเค้าว่า ‘ยูโตะ’ เฉยๆล่ะ ”
* -คุง เป็นคำที่ผู้หญิงจะใช้เรียกผู้ชายแบบนับถือ

ยูโตะ: จริงครับ คนในรุ่นเดียวกันก็จะคิดว่ามันแปลก

ยามาดะ: สำหรับผมแล้ว การที่ผมเรียก “ยูโตะคุง” มันเป็นเหมือนกับการแปรงฟันน่ะครับ มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ

ยูโตะ: สำหรับผม เวลาที่ผมได้ยินยามะจังเรียกผมแบบนั้น ผมมีความสุขมากเลยล่ะครับ มันให้ความรู้สึกแบบได้รับการไว้วางใจอะไรแบบนั้น ยามะจังได้แสดงละครเยอะมากเลยครับ แล้วก็จะได้เต้นอยู่ตรงกลางเวลาอยู่ใน JUMP ตลอด เวลาที่ผมเห็นแบบนั้น ผมก็จะคิดว่า “ยามะจังนี่พยายามได้ดีจริงๆเลยน๊า~” ยามะจังเป็นคนที่ฉลาดมากครับ ผมรู้ดีกว่าใครๆเลยล่ะ.. สิ่งที่ยามะจังเป็นในตอนนี้น่ะ ได้รับการยอมรับอย่างเต็มตัวเลยล่ะครับ ตัวอย่างเช่น ความพยายามของเค้าเวลาที่เต้น จะเห็นได้มาตลอดตั้งแต่สมัยที่เข้ามาแรกๆเลยล่ะ ถึงผมจะเป็นคนเดียวที่ได้ถือไมค์ร้องเพลง แต่คนที่เปล่งประกายอยู่ข้างหลังผมจะเป็นยามะจังเสมอครับ

ยามาดะ: พูดแบบนี้บางทีผมก็เขินนะเนี่ย แต่ยังไงผมก็มีความสุขมากจริงๆครับ

ยูโตะ: นี่เป็นครั้งแรกที่เรามาทำอะไรแบบนี้กัน ผมก็แอบรู้สึกแปลกๆเหมือนกันครับ

ยามาดะ: ใช่ๆ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกแปลกสุดๆเลยล่ะ!! แต่เวลาที่ยูโตะคุงตีกลอง เค้าดูเท่ห์สุดๆเลยล่ะครับ เมื่อคอนเสิร์ตฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ไดจังได้เห็นยูโตะคุงตีกลอง แล้วก็บอกว่า “ถ้าเราไม่ทำอะไรอย่างเค้าบ้างต้องแย่แน่ๆเลยล่าาา~” ผมรู้สึกได้ถึงสัญญาณอันตรายเลยล่ะครับ.. เรื่องนี้ผมจะพูดแค่ตอนนี้เท่านั้นนะ (เขิน)

ยูโตะ: เห~ ผมเพิ่งจะได้ยินเรื่องอย่างนี้เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย

ยามาดะ: นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมวงดนตรีของ JUMP ถึงได้ดูจริงจังขึ้นมา ถึงแม้ว่าอัตราการประสบความสำเร็จจะสูง แต่ว่าเพราะพวกเรากำลังโต มันก็เลยอาจจะเป็นอาวุธที่สำคัญของ JUMP ก็ได้ จริงๆแล้วมันเหมือนเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับแฟนๆน่ะครับ

ยูโตะ: บางทีผมก็อยากจะตีกลองให้ยามะจังเต้นครับ ผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ แต่เราเข้ากันได้ดีมากครับ

ยามาดะ: นั่นเพราะว่าเรารู้จักกันมานานมากไง~ มีตั้งหลายอย่างที่ผ่านมันไปได้ด้วยกัน แค่เราสองคน อาจจะเริ่มตั้งแต่ตอนที่เราต้นข้างๆกันในเพลง ‘Seishun Amigo’ ก็ได้นะ
* ‘Seishun Amigo’ เพลงประกอบละคร ‘Nobuta wo Produce’ ที่ยามะพีกับคาเมะแสดงนำ (ยูโตะตัวน้อยก็เล่นด้วย)

ยูโตะ: ตั้งแต่ตอนนั้นเราก็ได้คู่กันมาตลอด แล้วเราก็จะแสดงให้ทุกคนเห็น “คู่หู” ที่ดีที่สุดตั้งแต่เคยมีมาเลยครับ!!
* เค้าใช้คำว่า combi ลูลิเดาว่าน่าจะมาจาก combination ที่แปลว่าส่วนประกอบอ่ะค่ะ เลยแปลว่าคู่หู

————————————————————————–

Credit Mag scans: hxh_shami // English trans: honyaku_rakuen
แปลไทย :: ลูลิ~ (kawaii~ne)
http://www.whatsubb.com ~
Please take it out with full credit

————————————————————————–

,, กี๊ซซซซซซซซซซซซซซ…….. จิ้น!!
ตั้งใจจะแปลแบบตรงไปตรงมา ไม่ลำเอียง ไม่จิ้น ,, ข่มใจสุดริด
แต่คนแปลฉบับอิ้งจิ้นมาก่อน ลูลิก็เลยตามน้ำไป ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ชอบที่ยามะจังบอกว่า “ไม่ว่ายังไงยูโตะคุงเป็นยูโตะคุง(ของผม)อยู่ดี” ฟังแล้วปลื้มมมมมม

น้องมันก็คงแค่พูดไปตามที่คิด แต่สองแง่สามง่ามระเบิดจินตนาการคนอ่านได้ดีจริงๆ 555+
นากะXยามะ เชียร์ >///////<